ช่อง one31 จัดงาน Group Interviews สื่อสารการตลาดกับผู้บริหารช่องวัน “ทิศทาง แผนงาน และการรุกต่อของช่องวันใน Contents และ Platform ต่าง ๆ” ณ ห้องบอร์ดรูม ชั้น 21 อาคารจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ เพลส โดยกล่าวถึง ช่องวัน 31 รุกกลยุทธ์ “one Expansion” เพิ่มมูลค่าทีวี รุกดิจิทัล กำไรเติบโต ตอกย้ำผู้นำ คอนเทนต์ โพรไวเดอร์ พร้อมก้าวสู่ “ท็อป 3 เนชั่นแนล เทเลวิชั่น” โดยมีนายถกลเกียรติ วีรวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วัน สามสิบเอ็ด จำกัด, นายเดียว วรตั้งตระกูล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วัน สามสิบเอ็ด จำกัด และนายนิพนธ์ ผิวเณร ผู้บริหารด้านการผลิตคอนเทนต์ ช่องวัน 31 เข้าร่วม Group Interviews ในวันนี้
นายถกลเกียรติ วีรวรรณ หรือ คุณบอย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วัน สามสิบเอ็ด จำกัด กล่าวถึงทิศทางการเติบโตของช่องวัน 31 ที่ผ่านมาจนถึงทุกวันนี้ว่ามาจากปัจจัยหลายอย่าง แต่สิ่งหนึ่งที่เชื่อมาตลอดคือ ทีวีไม่ตาย เนื่องจากทีวีมี 2 ฟังก์ชั่น คือ เปิดไว้เป็นเพื่อนแค่ให้ได้ยินเสียง และเป็นเดสติเนชั่น (Destination) หรือจุดหมายที่จะดูรวมไปถึงการดูย้อนหลังด้วย ซึ่งช่องวัน 31 ต้องการที่จะเป็นผู้นำด้านคอนเทนต์ ที่แข็งแกร่ง โดยจะนำเสนอคอนเทนต์ที่โดนใจ เป็นที่ชื่นชอบไปในทุกกลุ่มเป้าหมายทุกช่องทาง ไม่ทิ้งทีวี และเร่งขยายดิจิทัลแพลตฟอร์มอย่างต่อเนื่อง
คุณบอย ถกลเกียรติ ยังบอกอีกว่า ปัจจุบันรายได้หลักของทางช่องวัน 31 ยังมาจากสื่อโทรทัศน์ ร้อยละ 70 สื่อดิจิทัล ร้อยละ 11 ส่วนที่เหลืออีก ร้อยละ 19 มาจากช่องทางอื่น ๆ เช่นการให้เช่าสตูดิโอ, การขาย license ทั้งรายการและละคร รวมถึงการรับจ้างผลิตรายการ ซึ่งทางช่องวัน จะยังคงกำหนดสัดส่วนการดำเนินงานระหว่างทีวี และดิจิทัลไว้อยู่ที่ 70:30 โดยยังคงมีทีวีเป็นหลัก อาจจะมีการปรับสัดส่วนเล็กน้อยหากอนาคตมีการเปลี่ยนแปลง เพราะอย่างไรก็ดีต้องดูทิศทางในอนาคตว่าจะเป็นอย่างไรจึงจะสามารถบาลานซ์ระหว่าง Broadcast และ Digital ได้
โดยทิศทางการดำเนินงานของทีวี ช่องวันยังคงเน้นกลุ่มเป้าหมายหลัก คือ ผู้หญิง อายุ 35 ปีขึ้นไป เป็นแม่บ้านคนเมือง และมีกำลังซื้อ แต่ก็มีการขยายฐานคนดูในช่วงเวลาต่าง ๆ โดยเฉพาะในช่วง Primetime ตั้งแต่เวลา 18.20 – 22.30 น. ซึ่งตอนนี้ช่องวัน 31 สามารถทำให้ช่วงเวลา Primetime ของสถานีก้าวขึ้นมาเป็นอันดับ 3 ติดต่อกันได้ถึง 3 เดือนแล้ว ตั้งแต่เดือนมีนาคม เมษายน และพฤษภาคม เรตติ้งสูงขึ้นจากเดิมถึงร้อยละ 80 โดยเรตติ้งเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาในช่วงเวลา Primetime อยู่ที่ 1.9 เป็นอันดับ 3 จากอันดับ 1 ช่อง 7 ทำเรตติ้งได้ที่ 4.9 อันดับ 2 ช่อง 3 ทำได้ 2.4 ส่วนเรตติ้งรวม 18 ชั่วโมงนับตั้งแต่ช่วงเวลา 06.00-24.00 น. ช่องวันยังคงอยู่ที่อันดับ 5 แต่ตัวเลขมีการขยับขึ้นเข้าใกล้กับ ช่อง Workpoint มากยิ่งขึ้น
ส่วนสำคัญของเรตติ้งช่องวัน 31 นั้นมาจากคอนเทนต์ทั้งละคร รายการวาไรตี้ และข่าว ที่มีความแข็งแรง โดยรายการที่เป็น Top Rating ของสถานีเมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมาอันดับ 1 คือ ละครหัวใจศิลา ซึ่งมีเรตติ้งอยู่ที่ 3.4 รองลงมา คือ ละครไลลาธิดายักษ์ เรตติ้ง 2.5 และอันดับ 3 คือ รายการรู้ไหมใครโสด เรตติ้งอยู่ที่ 2.3-2.5 นอกจากนี้รายการยอดนิยมที่ทำให้ช่องวันได้เรตติ้งอีกประเภท คือ รายการประกวดแข่งขันร้องเพลง ซึ่งมีรายการดวลเพลงชิงทุน เป็นรายการอันดับหนึ่ง รองลงมาเป็นรายการศึกวันดวลเพลง และ รายการ THE DUET ร้องล่าคู่ ตามลำดับ
ด้านนายเดียว วรตั้งตระกูล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วัน สามสิบเอ็ด จำกัด ยังได้เปิดเผยถึงการเติบโตของช่องวัน 31 อย่างมีนัยยะสำคัญ ว่าหลังจากมีการปรับคอนเทนต์ในปีที่ผ่านมา พบว่าสามารถเข้าถึงคนดูประมาณ 62 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 94 ของประเทศ และสิ้นปีนี้ตั้งเป้าเข้าถึงคนดูกว่า 64 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 98 ซึ่งเป็นการคาดคะเนโดยอ้างอิงจาก Rating ของ Nielsen ช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา รวมถึงดิจิทัลแพลตฟอร์มของช่องวัน 31 ไม่ว่าจะเป็นไลน์ทีวี ยูทูป และเฟซบุ๊ค ซึ่งสามรถ Reach ผู้ชมจาก Digital Platform ให้มาเปิดดูผ่านทางออนแอร์มากขึ้น รวมถึงรุกในส่วนของข่าว ซึ่งมีทิศทางที่แตกต่างจากสถานีข่าวอื่น ๆ เนื่องจากเป็นช่องที่คนส่วนใหญ่ดูละคร แต่ก็ยังคงความถูกต้อง และความน่าเชื่อถือ
ขณะที่นายนิพนธ์ ผิวเณร ผู้บริหารด้านการผลิตคอนเทนต์ ช่องวัน 31 ได้กล่าวถึงความชัดเจนในการสร้างเนื้อหาของช่องวัน ที่มัดใจของผู้ชมด้วยการวิเคราะห์คอนเทนต์ในแต่ละช่วงเวลา “ถูกที่ ถูกเวลา ถูกกลุ่มเป้าหมาย” โดยเฉพาะช่วง Primetime ของช่องวันซึ่งเติบโตขึ้นมามาก เนื่องจากวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายในแต่ละช่วงเวลา แล้วจึงมีการปรับเปลี่ยนรายการให้เหมาะสม
โดยในช่วงเวลา 19.00 น. มองว่าเป็น Family Time คนอายุตั้งแต่ 8-80 ปีสามารถดูได้ เด็กดูได้ ผู้ใหญ่ดูดี ดูร่วมกันเป็นครอบครัว ขยับมาถึงเวลา 20.00 น. เป็นช่วงเวลาที่คนเมืองเริ่มกลับถึงบ้าน รายการจะไปในทาง Mass และหวือหวามากขึ้น แต่ก็ยังไม่รุนแรงมาก เป็นรายการที่ทำให้ผู้ชมได้ปลดปล่อยจากเรื่องที่เจอมาทั้งวัน ได้ Escape ออกมาฟินกับละคร และช่วงเวลา ตั้งแต่ 21.00 น. เป็นต้นไป รายการจะต้องเป็นลักษณะ Niche หรือเฉพาะกลุ่ม ซึ่งส่วนใหญ่ของช่องวัน จะเป็นละครเรท น13+
นอกจากนี้ คุณบอย ถกลเกียรติ ยังเปิดเผยถึงตัวเลขการเติบโตของช่องวัน 31 ว่า ขณะนี้มีตัวเลขทั้งเรตติ้ง และรายได้สูงขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งมีผลต่อการปรับค่าโฆษณาให้สูงขึ้นในแต่ละช่วงเวลา
ช่องวัน 31 เริ่มกลับมามีกำไรตั้งแต่ปี 2561 จากปี 2560 ที่ขาดทุนอยู่ 505 ล้านบาท เข้าสู่ปี 2561 บริษัทฯ มีกำไร 28 ล้านบาท และในปี 2562 ตั้งเป้ารายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 15 โดยมีผลกำไร 100 % และในครึ่งปี 2562 ที่ผ่านมา รายได้ยังเป็นไปตามเป้าหมาย มั่นใจว่าครึ่งปีหลังช่องวัน 31 ยังสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และในปี 2563 ช่องวัน 31 พร้อมเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์
ทั้งนี้ ทางช่องวัน 31 ยังพยายามที่จะขยายฐานคนดู รวมไปถึงส่งออกคอนเทนต์ไปยังต่างประเทศ โดยการรวมเอา Content Partner เข้ามาร่วมกับสถานีในการผลิตรายการ เพื่อให้มีคอนเทนต์ที่แข็งแรงและหลากหลายมากขึ้น โดยที่ผ่านมา ช่องวัน 31 มีคอนเทนต์ที่แข็งแกร่งและสามารถจำหน่ายออกไปได้หลากหลายรายการ
โดยมีประเทศที่ซื้อไปผลิตให้เป็นรูปแบบของตัวเอง จนถึงการจำหน่ายคอนเทนต์ละครที่นำไปฉาย และนำไปแปลในประเทศต่าง ๆ อาทิ “รายการรู้ไหมใครโสด” ซึ่งสถานีโทรทัศน์ในประเทศเวียดนามซื้อรูปแบบรายการไปผลิต จนกลายเป็นรายการ Talk of The Town ของประเทศเวียดนาม รวมถึงละคร “เธอคือพรหมลิขิต” ซึ่งมีการซื้อไปฉายในประเทศจีน รวมถึง “ละครหัวใจศิลา” ที่จะมีการส่งออกเร็ว ๆ นี้เช่นกัน ซึ่งประเทศจีนถือเป็นตลาด Export ที่ใหญ่ที่สุดของช่องวัน
ช่องวัน 31 ยังวางเป้าหมายในการก้าวสู่ Top 3 "National Television" และผู้นำ Content Provider ซึ่งแนวโน้มภาพรวมที่ผ่านมา คาดว่าช่องวัน 31 จะก้าวขึ้นสู่เป้าหมายได้เร็ว ๆ นี้
