เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 4 เม.ย. 63 นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง พร้อมด้วยนายก่อพงษ์ โกมลรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ได้เรียกประชุมคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดลำปาง ซึ่งประกอบด้วยนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำปาง ตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง และส่วนที่เกี่ยวข้องเป็นการด่วน หลังจากพบผู้ติด เชื้อโควิด-19 ใน พื้นที่บ้านดง หมู่ที่ 7 ตำบลหลวงใต้ อำเภองาว จังหวัดลำปาง
ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง กล่าวในที่ประชุมว่าในขณะนี้ได้มีการพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดลำปาง คนในครอบครัวเดียวกัน ซึ่งวันนี้จำเป็นต้องมีการเรียกประชุมด่วนเพราะหากล่าช้าอาจไม่ทันการ โดยวันนี้จะต้องมีการพูดคุยกันในเรื่องของการดำเนินงานในขั้นตอนต่อไป
โดยเฉพาะเรื่องของการคัดกรองต่างๆ รวมถึงมาตรการที่อาจจะต้องมีเพิ่มเติมมากขึ้นหลังจากที่ก่อนหน้านี้ ทางจังหวัดลำปางได้มีการออกประกาศของจังหวัดร่วมกับการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินไปแล้ว แต่ยังมีการเสนอแนะให้มีการปรับการดำเนินงานในหลายเรื่องหลายประเด็น ซึ่งหลังจากประชุมเสร็จแล้วก็จะมีการแถลงข่าวให้กับประชาชนชาวจังหวัดลำปางได้ทราบอีกครั้ง
นายแพทย์ประเสริฐ กิจสุวรรณรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุข จังหวัดลำปาง ได้มีการรายงานในที่ประชุมว่า ผลตรวจทางการแพทย์ พบว่า มีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 อีก 1 ราย เป็นผู้หญิงอายุ 59 ปี รวมทั้งหมด 3 ราย จากการสอบถามหญิงรายดังกล่าวน่าจะติดเชื้อมาจากบุตรสาว ซึ่งมีอาชีพขายของที่ตลาดรถไฟรัชดา กทม. โดยบุตรสาวให้ประวัติว่า ช่วงตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม จนถึง 13 มีนาคม 2563 มีเพื่อนเป็นชาวญี่ปุ่นได้เดินทาง มาพักค้างกับตัวเองที่ห้องพัก ซึ่งเป็นคอนโดแห่งหนึ่งที่ กทม. หลังจากวันที่ 13 เพื่อนชาวญี่ปุ่นก็เดินทางกลับต่อมาวันที่ 17 มีนาคม 2563 บุตรสาวคนดังกล่าว มีอาการไข้สูง แต่ไม่ได้ไปรักษาโรงพยาบาล
ต่อมา วันที่ 20 มีนาคม 2563 จึงได้เดินทางกลับบ้านด้วยสายการบินไทยสมายล์ จากสุวรรณภูมิไปลงสนามบินที่จังหวัดเชียงราย หลังจากนั้นได้นั่งรถตู้โดยสารประจำทาง ช่วงเวลา 13.00 น. ได้นั่งรถตู้ของบริษัทหนานคำ เดินทางจากเชียงรายกลับบ้านที่อำเภองาว และมีอาการไข้อย่างต่อเนื่อง จึงได้กักบริเวณตัวเอง
พร้อมทั้งได้แจ้งคนครอบครัวว่าตนเองมีไข้ ขอพักรักษาตัวอยู่ในเฉพาะห้องนอนเท่านั้น ซึ่งเป็นชั้นที่ 2 ของบ้าน ไม่ให้คนอื่นมาเข้าใกล้และห้ามมีใครใช้ร่วมห้องน้ำชั้น 2 ของบ้าน ต่อมาวันที่ 22 มีนาคม เวลาประมาณ 04:50 น ก็มีอาการไข้อย่างรุนแรงจึงเดินทางไปตรวจรับการรักษาที่โรงพยาบาลงาว ซึ่งเป็นยามวิกาล
ทางเจ้าหน้าที่พยาบาลเวรได้มีการซักประวัติ และเข้าข่ายเนื่องจากเดินทางมาจาก กทม. จึงแนะนำให้มาตรวจในเวลาปกติในคลินิกโรคระบบทางเดินหายใจ แต่เบื้องต้นได้จ่ายยา รักษาพยาบาล เป็นยาลดไข้ ลดน้ำมูกและลดไอให้
ต่อมาในวันที่ 23 มีนาคม ทางเจ้าหน้าที่ได้นัดให้ผู้ป่วยรายดังกล่าวมาตรวจแต่ทางผู้ป่วยไม่ได้มา เนื่องจากผู้ป่วยดังกล่าวอ้างว่าหลังจากทานยาแล้วมีอาการดีขึ้น เลยพักตัวอยู่ที่บ้าน ต่อมาด้วยวันที่ 26 มีนาคม ผู้ป่วยรายดังกล่าวได้มาตรวจที่โรงพยาบาล ในคลินิกโรคระบบทางเดินหายใจ เจ้าหน้าที่ทำการซักประวัติตามระบบพบว่ามีปัจจัยเสี่ยงเนื่องจากเดินทางมาจากกทม.
รวมทั้งมีเพื่อนชาวต่างชาติมาพักค้าง จึงเข้าระบบได้ปรึกษาทางกระทรวงสาธารณสุข ได้ให้ความเห็น ว่า ไม่เข้าข่าย ก็เลยไม่ได้ตรวจหาเชื้อโควิด-19 ซึ่งทางแพทย์ได้แนะนำว่า ให้ทานยาพักตัวอยู่ที่บ้าน ซึ่งผู้ป่วยได้ตามคำแนะนำของหมอ พร้อมทั้งวัดไข้ตัวเองทุกวัน ซึ่งจากการวัดไข้ของตัวเองอยู่ในเกณฑ์ปกติ ส่วนผู้ป่วยอีกรายซึ่งเป็นแม่อายุ 59 ปี เริ่มมีอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง และกล้ามเนื้อตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม แต่ได้มาพบแพทย์ในวันที่ 2 เมษายน และนอนโรงพยาบาลที่งาว
จากการซักประวัติ ในชีวิตประจำวันตั้งแต่เช้าก็จะขายของที่บ้าน ซึ่งเป็นร้านขายของชำ และในช่วงบ่ายก็จะเดินไปนั่งพูดคุยกับบ้านข้างเคียง ซึ่งอยู่ในวัยเดียวกัน และทานข้าวกับสามีรวมทั้ง มีพี่สาวของผู้ป่วย ซึ่งเป็นผู้ที่ใกล้ชิดอยู่สม่ำเสมอซึ่งจากการซักประวัติและสอบถามผู้ที่เข้ามา ข้อมูลเกี่ยวกับครอบครัวที่ติดเชื้อโควิด-19 ดังกล่าวนั้น
ส่วนพี่สาวของหญิงรายที่อายุ 59 ปี จากการตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19 แต่ไม่มีอาการป่วยแต่อย่างใด ทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้ดำเนินการ ได้นำผู้ป่วยและผู้สัมผัสเกี่ยวข้องในครอบครัวทั้งหมด หรือผู้ที่มีความเสี่ยงสูงทั้งหมดนอนในห้องแยกโรคที่โรงพยาบาลงาวทั้งหมดแล้ว
ส่วนในชุมชนหมู่ที่ 7 ตำบลบ้านดง อำเภองาว จังหวัดลำปาง เป็นบ้านที่ผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 มีทั้งหมด 130 หลังคาเรือน ได้ประสานทางผู้นำชุมชนเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เพื่อประกาศเสียงตามสายแจ้งให้ประชาชนในพื้นที่ทราบว่าจะมีเจ้าหน้าที่ของกระทรวงสาธารณะสุข เข้าไปทำการสอบสวนโรค ในหมู่บ้านรวมทั้งทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน
ส่วนเจ้าที่ได้มีการคัดกรองและเข้าไปคัดกรองตามระบบจำนวนทั้งหมด 80 หลังคาเรือน ซึ่งเจ้าหน้าที่ ได้ลงพื้นที่ ให้คำแนะนำประชาชนในหมู่บ้าน หรือกลุ่มเสี่ยงที่จะติดโรคเพื่อทำความเข้าใจและหาวิธีป้องกันโรคโควิด-19 ต่อไป.
ข่าวที่น่าสนใจ :
➥ จุฬาฯ ตรวจโควิด-19 ฟรี รู้ผลในเวลา 10 นาที
➥ ขอ 1 สัปดาห์ จ่อเคอร์ฟิว หากไม่ดีขึ้นยกระดับ 24 ชม.
➥ ห้ามขึ้น ‘ทางด่วน’ ทุกสายหลัง 4 ทุ่ม
➥ วันสร้างสุข “สู้ภัยโควิด-19” เพื่อสนับสนุนการรักษาโควิด-19 แก่ รพ. ที่ขาดแคลนทั่วประเทศ
