อนุทิน มั่นใจ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ มรณภาพ ไม่เกี่ยววัคซีน

ดู 1,085 ครั้ง
ประจำวันที่ 02 เมษายน 2564

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงพระครูสิริปัญญาเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์มรณภาพ ว่า เป็นเรื่องที่น่าเสียใจอย่างมาก แต่อยากไรก็ตามจะนำร่างของพระครูสิริปัญญาเมธี ไปชันสูตรรายงานผลทางการแพทย์

ทั้งนี้ยังมั่นใจว่าไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับวัคซีน แต่อาจจะเป็นช่วงเวลาที่บังเอิญตรงกันพอดีเพราะวัคซีนที่นำเข้ามาผ่านการทดสอบเรื่องความปลอดภัยมาหลายขั้นตอนมาก หลังจากทางผู้ผลิตและกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ รวมไปถึงคณะกรรมการอาหารและยาในประเทศเอง พร้อมย้ำว่าประชาชนต้องไม่ตระหนกตกใจ และสมควรที่จะเข้ารับวัคซีนอยู่ ส่วนผลการชันสูตรของพระครูสิริปัญญาเมธีนั้น ขอให้รอผลทางการแพทย์ในวันนี้

ส่วนพระสงฆ์รูปอื่นๆ ที่ฉีดวัคซีนพร้อมกัน และมีอาการไข้นั้น เป็นเพียงอาการไข้เล็กน้อย ตัวรุมๆ ปวดเเขน ซึ่งถือเป็นอาการข้างเคียง อย่างตนเองที่ฉีดเข็มที่ 2 ก็รู้สึกหน่วงๆ กว่าตอนฉีดเข็มแรก ก็พยายามสังเกตอาการตัวเองตลอดเวลา พออาการก็กลับมาเป็นปกติซึ่งก็ได้ถามรัฐมนตรีช่วยท่านที่อื่นๆ ก็มีอาการคล้ายกัน และขณะนี้เองพระสงฆ์ที่มีไข้ก็อาการดีขึ้น

ขณะเดียวกัน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เรียกทีมแพทย์เพื่อหารือจัดทำแอปพลิเคชั่น เพื่อรองรับการฉีดวัคซีน ว่า เนื่องจากนายกรัฐมนตรีมีความหวังดี และเกรงว่าวัคซีนที่นำมาแจกจ่ายให้กับประชาชนในรอบนี้กว่า 10 ล้านโดส จะไม่ทันจึงพยายามหาช่องทางให้ประชาชนได้จองเวลา หรือลงทะเบียนให้ข้อมูลต่างๆ เพื่อให้แพทย์ได้รับทราบข้อมูลเบื้องต้น ซึ่งการเรียกหารือในครั้งนี้ตนถือว่านายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญเป็นอย่างมากเนื่องจากสามารถสั่งการได้ทันทีให้จัดทำแอปพลิเคชั่น แต่กลับเรียกประชุมเอง

ทั้งนี้ นายอนุทิน ระบุว่า จะใช้ทุกแอปพลิเคชั่นที่มีอยู่ รวมไปถึงใช้อสม. กว่า 1 ล้านคนลงพื้นที่ โดยจะมีทีมแพทย์เป็นผู้ตรวจข้อมูล ยืนยันว่า จะเป็นการทำระบบแบบคู่ขนาน ทั้งระบบอนาล็อกและระบบดิจิทัล ซึ่งขณะนี้ต้องค่อยๆทำให้คนนั้นคุ้นชินกับแอปพลิเคชั่นต่างๆ และตนเชื่อว่า จะมีกำลังความสามารถในการบริหารจัดการวัคซีน ใครเดินเข้ามาก็สามารถฉีดได้ การโหลดแอปพลิเคชั่นไม่ใช่การจองวัคซีนแต่เป็นการกรอกข้อมูลต่างๆ ซึ่งจะรวมไปถึงใบอนุญาตที่จะปรากฏอยู่ในแอปพลิเคชั่น ส่วนคนที่ไม่มีสมาร์ทโฟนก็จะเป็นใบรับรองที่จะสามารถแนบในพาสปอร์ตได้ ซึ่งหากไทยมีแพลตฟอร์มที่เป็นที่ยอมรับของต่างประเทศก็ไม่มีปัญหาอะไร.

Top