นายเเพทย์ ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. แถลงข่าวถึงมติที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ วันนี้ว่า ที่ประชุมมีมติยกระดับมาตรการ การป้องกันแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยยืนยันไม่มีการประกาศเคอร์ฟิว และ ล็อกดาวน์พื้นที่ต่างๆ แต่อย่างใด ซึ่งมาตรการที่ได้พิจารณาออกมาประกอบด้วย
การเพิ่มพื้นที่ควบคุมสูงสุดสีแดง 18 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, เชียงใหม่, ชลบุรี, สมุทรปราการ, ประจวบคีรีขันธ์, สมุทรสาคร, ปทุมธานี, นครปฐม, ภูเก็ต, นครราชสีมา, นนทบุรี, สงขลา, ตาก, อุดรธานี, สุพรรณบุรี, สระแก้ว, ระยอง, ขอนแก่น พร้อมปรับระดับพื้นที่ควบคุมสีส้ม อีก 59 จังหวัดที่เหลือ
โดยในส่วนของพื้นที่ควบคุมสูงสุดสีแดงให้มีมาตรการดังนี้ ให้ร้านอาหาร ร้านกาแฟเครื่องดื่ม เปิดรับประทานในร้านได้ไม่เกิน 21.00 น. แต่ให้ซื้อกลับได้จนถึง 23.00 น. ห้ามจำหน่ายและดื่ม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านโดยเด็ดขาด ส่วนห้างสรรพสินค้า ให้เปิดได้ถึง 21.00 น. ซึ่งต้องจำกัดจำนวนผู้ใช้บริการ แต่ปิดโซนสวนสนุกและตู้เกม ต่างๆ เป็นต้น ขณะที่ร้านค้า ถนนคนเดิน ซูเปอร์มาเก็ต ที่เคยเปิด 24 ชม. ให้เปิดบริการได้ตั้งแต่ 04.00 - 23.00 น. นอกจากนี้ สนามกีฬากลางแจ้ง ยิมฟิตเนส ให้สามารถเปิดได้ไม่เกิน 21.00 น.
ขณะที่พื้นที่ควบคุมสีส้ม ให้มีมาตรการดังนี้ สามารถนั่งรับประทานอาหารในร้านได้ถึง 23.00 น. แต่ห้ามขายและดื่ม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้าน ขณะที่ห้างสรรพสินค้า ให้เปิดได้ถึง 21.00 น. แต่ต้องจำกัดจำนวนผู้ใช้บริการ พร้อมปิดโซนสวนสนุกตู้เกม ต่างๆ เป็นต้น ส่วนร้านค้า ถนนคนเดินซูเปอร์มาเก็ต และ สนามกีฬาเปิดได้ตามปกติ แต่ต้องมีมาตรการป้องกันเข้มงวด
นายเเพทย์ทวีศิลป์ กล่าวต่อว่านอกจากนี้ยังมีมาตรการสำหรับบังคับให้ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ได้แก่ ห้ามจัดกิจการหรือกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค คือ งดการเรียนการสอน สอบ ฝึกอบรม หากจำเป็นต้องทำเรื่องขออนุญาต, ห้ามทำกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มเกิน 50 คน หากมีความจำเป็นต้องทำเรื่องขออนุญาตเช่นกัน, ให้ปิดสถานบริการหรือสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่โรค เช่น ผับบาร์ คาราโอเกะ อาบอบนวด อย่างน้อย14 วัน, งดกิจกรรมสังสรรค์ งานเลี้ยงรื่นเริง, พร้อมขอความร่วมมือทุกภาคส่วนทำ WFH
นอกจากนี้ยังมีมาตรการเพื่อรองรับผู้ติดเชื้อ โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง ศปค.สธ ร่วมกับ ศบค.มท จัดหาสถานที่เพื่อรักษาแยกกักผู้ป่วย และ กักกันเฝ้าระวังสำหรับผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ ส่วนผู้ติดที่เชื้อทุกรายต้องเข้ารับการรักษา จนได้รับการยืนยันว่าหายป่วยแล้ว
ทั้งนี้จะทดลองใช้มาตรการที่กล่าวมานี้ 2 สัปดาห์ โดยให้ ศบค.ชุดเล็กทำการประเมินผลและนำเสนอต่อนายกรัฐมนตรีและศบค.ชุดใหญ่พิจารณาเพื่อปรับมาตรการต่อไป โดยจะเริ่มบังคับใช้วันที่ 18 เมษายน 64 คือหลังเที่ยงคืนวันเสาร์นี้ เป็นต้นไป.
