สหรัฐฯ ผ่อนคลายสวมหน้ากาก หลังฉีดวัคซีนเกินครึ่งประเทศ

ดู 1,241 ครั้ง
ประจำวันที่ 28 เมษายน 2564

 

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน กล่าวปราศรัยจากทำเนียบขาวว่า สหรัฐมีความคืบหน้าอย่างน่าพอใจในการระดมฉีดวัคซีนโควิดให้กับประชาชนดังนั้น มาตรการเข้มเรื่องการสวมหน้ากากอนามัยก็จะมีการผ่อนคลายลง นายไบเดนกล่าวว่า สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้เข้ารับการฉีดวัคซีน โดยเฉพาะคนรุ่นหนุ่ม-สาว หรือ ผู้ที่คิดว่าไม่จำเป็นต้องฉีดวัคซีน การผ่อนปรนเรื่องการสวมหน้ากากอนามัยเป็นเหตุผลที่ดีในการส่งเสริมให้เข้ารับวัคซีน ซึ่งควรจะตัดสินใจบัดนี้เลย 

นายไบเดน กล่าวเรื่องนี้ไม่นานหลังจากที่ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ หรือ CDC ซึ่งเป็นหน่วยงานสูงสุดด้านสาธารณสุข แจ้งว่า ชาวอเมริกันที่ฉีดวัคซีนครบถ้วนแล้ว สามารถออกไปนอกบ้านหรือไปในสถานที่เปิดโล่งโดยไม่ต้องสวมหน้ากากอนามัยได้เกือบตลอดเวลา 

อย่างไรก็ตาม CDC ระบุว่า การสวมหน้ากากอนามัยยังคงจำเป็นสำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้ว หากว่าไปชมคอนเสิร์ต ชมกีฬารายการใหญ่ ๆ รวมทั้งเวลาอยู่ภายในอาคาร ขณะนี้ประชาชนวัยผู้ใหญ่ในสหรัฐเกินครึ่งหนึ่งฉีดวัคซีนไปแล้วอย่างน้อย 1 เข็ม จาก 2 เข็ม ประชาชนที่พากันออกไปฉีดวัคซีนก็เริ่มลดลง แต่ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ก็ลดลงเช่นกัน

มาตรการใหม่ที่ทาง CDC เพิ่มเติม คือ ชาวอเมริกันที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว สามารถนั่งทานอาหาร ร่วมโต๊ะกับเพื่อนฝูงหรือผู้คนต่างครอบครัวต่างครัวเรือน ที่ร้านซึ่งจัดโซนนั่งทานอาหารกลางแจ้ง หรือจัดงานรวมกลุ่มเล็กๆ ร่วมกับผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนได้

แต่ยังคงแนะให้สวมหน้ากากและรักษาระยะห่างทางสังคม หากต้องไปทำกิจกรรมที่มีผู้คนหนาแน่น เช่น ขบวนพาเหรด การแข่งขันกีฬา การไปร้านตัดผม ห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนตร์ หรือศาสนสถาน 

สำหรับสถานการณ์ในอเมริกา ผู้ติดเชื้อรายใหม่ ลดลง 16 เปอร์เซ็นต์ เมื่อสัปดาห์ก่อน แต่ยอดเสียชีวิตยังคงครองอันดับหนึ่งของโลก ที่กว่า 573,000 คน โดยสหรัฐฯ สามารถแจกจ่ายวัคซีนเข็มแรกของบริษัทไฟเซอร์และไบโอเอ็นเทค โมเดอร์นา และจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ให้ถึงประชาชนไปมากกว่า 140 ล้านคนทั่วประเทศ.

อัปเดตสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทย

Top