พ.ต.ท.ณัฏฐ์เดชา ฐานิสภัทราพงศ์ รอง ผกก.สส.สภ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธรพระนครศรีอยุธยา ร่วมแถลงข่าว หลังจากสามารถติดตามจับกุม นางจำเนียน โตปราง อายุ 53 ปี ผู้ต้องหาที่ปีนกำแพงเข้าไปขโมยกล้วย ตามบ้านเรือนประชาชนสร้างความเสียหายเดือดร้อน โดยมีผู้เสียหายเดินทางมาดูหลายราย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ นำตัว นางจำเนียน มาทำการแถลงข่าว พร้อมของกลางเป็นกล้วยน้ำว้า มะม่วง มะนาว ที่ตระเวนขโมยชาวบ้านไปจำหน่าย
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อวันที่ 19 เมษายน ที่ผ่านมา เวลา 01.00 น. กล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพพฤติกรรมของคนร้ายไว้ได้ขณะเข้าไปขโมยตัดกล้วยน้ำว้า ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถสืบสวนแกะรอยและตามจับตัวผู้ก่อเหตุได้ที่บ้านพัก ภายในหมู่บ้านกรุงเก่า หมู่ 5 ต.ท่าวาสุกรี อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ได้พร้อมของกลาง เป็นกล้วย มะม่วง และมะนาว ถูกตัดใส่กระสอบไว้ เป็นจำนวนมาก
นางจำเนียร อ้างว่า ที่ทำส่วนใหญ่ก็จะเอาไปกินแล้วขายตามตลาดนัด ส่วนกล้วยที่ปีนกำแพงขึ้นไปดังภาพวงจรปิด ไม่กลัวตกหรืออย่างไร ตอบว่าไม่รู้ว่าเป็นลูกเทพหรือยังไง พอเห็นแล้วอยากกิน ปกติตนเองมีอาชีพขายกับข้าวใส่บาตรพระในตอนเช้า ภายในบริเวณตลาดเจ้าพรหม แต่มาช่วงหลังๆ เจอพิษของโควิด เศรษฐกิจไม่ดีจึงขายของไม่ได้ ประกอบกับตนเอง ป่วยมีโรคประจำตัว ไม่มีเงิน เพื่อจะไปหาหมอ จึงออกตระเวนกับขโมยกล้วยมะม่วงมะนาวของชาวบ้านเพื่อนำไปขาย และเอามาไว้กินบ้าง ตนเองยอมรับว่าเหตุขโมยแบบนี้มาแล้วประมาณ 10 กว่าครั้ง พร้อมยกมือขอโทษผู้เสียหายอ้างว่าพี่ทำลงไปนั้นไม่มีเงินจริงๆ ถึงได้ไปก่อเหตุขโมย พืชผลการเกษตร
ขณะที่มีผู้เสียหายจำนวน 3 ราย เข้ามาดูหน้าผู้ก่อเหตุที่ตระเวนลักทรัพย์สิน ของชาวบ้าน ด้าน นางกนกอร อู่ทรัพย์ 1 ในผู้เสียหาย กล่าวว่าขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่สามารถจับตัว ผู้ก่อเหตุได้อย่างรวดเร็ว ผู้ต้องหาคนดังกล่าวไม่ใช่คนในพื้นที่ และไม่เคยเห็นหน้าตา แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถจับตัวได้อย่างรวดเร็ว ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สามารถจับผู้ต้องหาได้ แต่ก็ไม่น่ามาขโมยกันแบบนี้ สร้างความเดือดร้อน และ พอหลายๆ เห็นหน้าผู้ต้องหาก็รู้เลยว่าคนๆ นี้ เคยก่อเหตุแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว ชาวบ้านปลูกไว้ยังไม่ทันจะแก่สุกงอม ก็มาถูกคนร้ายตระเวนตัดไปหมด อย่างไรก็ตามก็ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย.